วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ดอกกุหลาบ


กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย
  ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิจีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย




ดอกกุหลาบกำลังเบ่งบาน






(ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://hilight.kapook.com/view/17583)

วันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประวัติของดอกกุหลาบ




* กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกมาแต่โบราณ ว่ากันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อ 70 ล้านปีมาแล้ว และเคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่ก่อนกุหลาบนั้นเป็นกุหลาบป่าและมีรูปร่างไม่เหมือนในทุกวันนี้ แต่เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์จนขยายเป็นพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย
*          ตามประวัติศาสตร์เล่าว่ากุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอกส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน เพราะชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมาก แม้ว่าจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังลงทุนสร้างสถานที่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย เพราะสำหรับชาวโรมันแล้วดอกกุหลาบนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน อีกทั้งชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นทั้งของขวัญ และเป็นดอกไม้สำหรับทำมาลัยต้อนรับแขก รวมถึงเป็นดอกไม้สำหรับงานฉลองต่าง ๆ แถมยังเป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ และยาได้อีกด้วย
*          และเมื่อเอ่ยถึงดอกกุหลาบแล้ว หลาย ๆ คนก็คงจะนึกถึงเรื่องความรัก เพราะกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความโรแมนติก โดยมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงามและความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม
*          แม้จะไม่มีการบันทึกอย่างชัดเจนว่าดอกกุหลาบนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านเราตอนไหน แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้บันทึกไว้ว่าเห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ ก็ได้มีการกล่าวถึงกุหลาบเอาไว้ และยังมีตำนานดอกกุหลาบของไทยที่เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มาก แต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา 

วีดีโอดอกกุหลาบ





Gallery ดอกกุหลาบสวยๆ







































(ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.the-than.com/FLower/Fl-2/7/7.html





สรรพคุณของกุหลาบ


* "กุหลาบ" ได้ถูกค้นพบโดยชาวสวนนิรนามเมื่อ 4,000 ปีก่อน จากดอกไม้แสนสวยที่มักถูกกล่าวถึงในบทกวีหรือตำนาน เปรียบเปรยเรื่องของความรัก ความงาม ความโรแมนติก ในสมัยโบราณกลับมีการใช้กุหลาบทางการแพทย์มากมาย แพทย์หลายคนได้ใช้น้ำต้มกุหลาบรักษาอาการเส้นประสาทอักเสบ ใช้ควันจากดอกกุหลาบรมเพื่อรักษาคนไข้ปอดอักเสบ หรือใช้สารสกัดกุหลาบสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคไต
*           น้ำมันที่สกัดจากกลีบดอกของกุหลาบ มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น ทำให้ร่างกายทำงานอย่างสอดคล้อง สมดุล ปรับระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง ปรับระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อ ปรับการทำงานของระบบประสาทให้สมดุล น้ำมันกุหลาบจัดเป็นน้ำมันที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร เพราะช่วยสมานแผลกระเพาะอาหาร ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยปรับสมดุลการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ แพทย์บางท่านได้มีการสั่งน้ำมันกุหลาบให้ผู้ป่วยโรคหัวใจสูดดม เพื่อลดอาการเจ็บแน่นหน้าอก


*   กลีบกุหลาบ อุดมไปด้วยวิตามินซี แคโรทีน วิตามินเค แคลเซียม และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายและระบบเลือดเรียกได้ว่า วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการนั้น มีอยู่ครบถ้วนในกลีบกุหลาบ เช่น "โพแทสเซียม" ที่จำเป็นต่อระบบหัวใจ "แร่ธาตุทองแดง" ที่ร่างกายต้องการเพื่อกระบวนการสร้างเม็ดเลือด และใช้ในกระบวนการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ "ไอโอดีน" ที่ร่างกายต้องการสำหรับการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ เรียกได้ว่าในกลีบกุหลาบมีคุณค่าครอบจักรวาลสำหรับการดูแลสุขภาพ


*          จากการศึกษาข้อมูลพบว่า เชื้อแบคทีเรียจะตายภายใน 5 นาที เมื่อสัมผัสกับกลีบกุหลาบสด ซึ่งถ้าหากมีปัญหาผิวหนังติดเชื้อ มีสิวแผลเปิด ไฟไหม้ ผิวผื่นแพ้ ล้วนสามารถรักษาได้ด้วยกลีบกุหลาบสด
*           กุหลาบแห้ง นำมาป่นให้เป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง ใช้ทาภายในช่องปากเพื่อรักษาอาการอักเสบในช่องปาก ปัญหาของเหงือกและฟันได้
*           การสูดดมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบ ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ วิงเวียน อ่อนเพลีย หรือแม้แต่เพียงการสูดดมกลิ่นหอมจากกุหลาบ ก็สามารถช่วยขจัดอารมณ์เศร้าหมองวิตกกังวล ปัญหาเครียด จิตใจฟุ้งซ่าน อาการปวดศีรษะ ไอ และอาการหวัดได้


*           การอาบน้ำกลีบกุหลาบ ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถช่วยคลายเครียด ลดความวิตกกังวล และช่วยบำรุงผิว ทำได้โดยการนำกลีบกุหลาบสดครึ่งถ้วย ใส่ชามขนาดใหญ่ เติมน้ำร้อนและปิดฝาทิ้งไว้เพื่อรักษากลิ่นของกุหลาบ เมื่อจะอาบน้ำให้เทน้ำกุหลาบที่เตรียมไว้ผสมกับน้ำอุ่นในอ่างน้ำอาบ และเติมน้ำคั้นหัวบีตรูตเพื่อเพิ่มสรรพคุณทางการรักษาของกุหลาบให้ดีขึ้นไปอีก
*           สเปรย์น้ำกุหลาบ ที่มีสรรพคุณทางการดูแลสุขภาพ โดยมีวิธีการทำคือ ใช้กลีบกุหลาบ 10 กรัม เทใส่อ่างเติมน้ำร้อน กรองเอาน้ำมาใช้ เทใส่ขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบริเวณที่ต้องการ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ทำให้ร่างกายแข็งแรง หากใช้น้ำกุหลาบขณะอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อปวดข้อจากรูมาตอยด์
*           มาส์กกุหลาบ สำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวที่มีปัญหาสิว ทำให้ผิวสดใส มีชีวิตชีวา มีวิธีการทำคือ นำกลีบกุหลาบมาตากให้แห้ง บดเป็นผง เติมน้ำเล็กน้อย คนให้เข้ากัน นำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก

*          ชากลีบกุหลาบ เหมาะสำหรับรักษาอาการหวัด เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ บำรุงร่างกายให้แข็งแรง เป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ดี เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่มากมาย
*           น้ำกุหลาบ ให้นำดอกกุหลาบสด ใช้เฉพาะกลีบ ประมาณ 1 ถ้วย ใส่ในภาชนะ เติมน้ำเดือด 2 ถ้วย ปิดฝาทิ้งไว้ให้เย็น คั้นเอาแต่น้ำมาใช้ทาหน้าหรือใช้เป็นโทนเนอร์ปรับสภาพผิวหลังล้างหน้า ส่วนที่เหลือสามารถเก็บไว้ใช้ได้เมื่อต้องการ
*          น้ำมันหอมระเหยกุหลาบ ช่วยคลายเครียด ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส คลายกล้ามเนื้อเรียบ เพิ่มความรู้สึกทางเพศ ฝาดสมานรักษาแผล ทำให้แผลหายเร็ว บำรุงตับ ช่วยระบาย ขับระดู ทำให้นอนหลับ ระงับประสาท บำรุงร่างกาย



(ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://health.kapook.com/view67727.html)


ประโยชน์ของกุหลาบ


*  กุหลาบ เป็นไม้ดอกที่มีความสวยงามยากที่จะหาดอกไม้ชนิดอื่นมาเปรียบเทียบได้จนกระทั่งมีผู้ให้ฉายาว่า "ราชินีแห่งดอกไม้" ดังนั้นกุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกและใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้กุหลาบยังมีคุณสมบัติที่ดีเด่นอีกหลายประการ สามารถใช้ประโยชน์ได้กว้างขวาง เช่น ใช้เป็นไม้กระถาง ไม้ตัดดอก ตกแต่งสถานที่ ตลอดจนใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับทำเป็น น้ำมันหอมระเหยและดอกไม้แห้ง ในการปลูกเป็นการค้าก็ยังได้เปรียบดอกไม้อีกหลายชนิดเป็นต้นว่า สามารถควบคุมการออกดอกได้ง่ายซึ่งทำให้กำหนดการออก ดอก ให้ตรงกับเทศกาลทำให้สามารถจำหน่ายได้ราคาดี และเนื่องจากกุหลาบเป็นดอกไม้ ที่นิยมของคนทั่วไป ดังนั้น จึงสามารถหาตลาดจำหน่ายได้ง่ายกว่าดอกไม้อื่นๆ นอกจากนี้กุหลาบที่ปลูกในประเทศไทยยังเจริญเติบโตได้ดีในฤดูหนาว ซึ่งต่างกับ ประเทศในแถบยุโรปที่ต้องการกุหลาบมาก การจะปลูกกุหลาบในฤดูหนาวต้องปลูกในเรือนกระจก ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงจึงส่งผลให้ดอกกุหลาบมีราคา แพง ดังนั้น ประเทศ ที่ปลูกกุหลาบได้ดีในฤดูหนาวจึงสามารถตัดดอกส่งไปขายตลาดต่าง ประเทศได้ราคาดี
*ประโยชน์:ในสังคมไทย นิยมนำกุหลาบมาใช้งานอย่างกว้างขวางในงานทุกประเภท ได้แก่ การตกแต่งสถานที่ สำนักงาน โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว หรือจัดเวทีแสดง ซุ้มงานแต่งงาน งานศพ ใช้บูชาพระ ใช้จัดดอกไม้แสดงความยินดีหรือเป็นของขวัญ โดยเฉพาะนิยมมอบให้กันในวันวาเลนไทน์เพื่อแสดงความรัก ดังนั้น กุหลาบจึงเป็นไม้ตัดดอกที่นิยมใช้ทุกเทศกาลสามารถเเบ่งให้ดูง่ายๆได้ดังนี้
*1.)ปลูกเพื่อความสวยงาม
*2.)ตกแต่งสวน
*3.)เพิ่มบรรยากาศ
*4.)ใช้ประดับตกแต่งบ้าน งานเลี้ยง งานแต่งงาน
*5.)ปลูกเพื่อส่งดอกขาย
*6.) เพื่อนำไปสกัดน้ำหอม
*7.)นำไปทำเป็นส่วนประกอบของสปา